วันศุกร์ที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2560

Passion กับอิทธิบาท4

วันนี้จะมาเล่าเรื่อง Passion สำหรับที่ชอบอ่านหนังสือพวกจิตวิทยาพัฒนาตัวเอง หรือดูคลิปประเภทนี้ ซึ่งในปัจจุบันก็มีมากมายหลายเล่ม หลายโค้ช หลายสถาบันที่ทำออกมาให้พวกเราได้ติดตามกัน สำหรับเราเองก็มีหลายคนได้ติดตามอยู่วนๆ ไป ช่วงนี้อาจจะดูคนนี้มากหน่อย อีกช่วงก็ไปตามงานของอีกคนแทน ซึ่งหลายๆ คนที่เราติดตามในช่วงนี้หลักๆ จะเป็น ฌอน บูรณะหิรัญ และรายการที่นั่งย้อนดูบ่อยๆ จะเป็นเจาะใจ แล้วมันวนมาที่ Passion ได้ยังไง?

สิ่งที่น่าสนใจของวันนี้ที่เราก็พบคือ Passion กับอิทธิบาท4 เรื่องนี้ครูเงาะได้พูดคุยกับฌอน ในแชนแนลของฌอนเอง ใครสนใจอยากฟังเต็มๆ ลองไปหากันดู ครูเงาะได้อธิบายความหมายของอิทธิบาท4 เอาไว้ง่ายๆ จนสงสัยตัวเองว่า ทำไมตอนเรียนพระพุทธศาสนาสมัยมัธยมฯ เราถึงไม่เข้าใจมันแบบนี้จะได้เอามาปรับใช้ในชีวิตไม่ใช่ท่องเป็นนกแก้วนกขุนทองแล้วทำชีวิตพังอย่างที่หลายๆ คนคงเป็นเช่นเดียวกับเรา  ว่ากันสั้นๆ อิทธิบาท4 คือหลักการทำงานให้สำเร็จและมีความสุข มีทั้งหมด 4 ข้อ คือ ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา เราเองจำ 4 คำนี้ได้แต่ก็ไม่เข้าใจความหมายลึกซึ้ง ที่เข้าใจมากกว่าคำอื่นก็เห็นจะเป็น วิริยะ ที่แผลงมาเป็น พิริยะ=เพียร ซึ่งส่วนใหญ่จะเข้าใจว่าเป็นความขยันนั่นเอง แต่ความหมายที่แท้จริงของทั้ง 4 คำมันลึกซึ้งกว่านั้นมากมายนัก
นี่คือสิ่งที่ครูเงาะอธิบายคร่าวๆ ที่เราจับใจความมาได้และเสริมความเข้าใจของตัวเองลงไป อาจจะไม่ครบถ้วนหรือคลาดเคลื่อนจากความหมายจริงๆ ไปบ้างต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย

ฉันทะ = Passion = รักในสิ่งที่ทำ
อันนี้ถามคนอ่านเลยนะว่าสิ่งที่คุณทำอยู่ทุกวันนี้คุณรักมันรึเปล่า? หรือแค่ทำมันเฉยๆ หลายคนคงมีคำถามกลับมาว่าแล้วจะรู้ได้ยังไงว่ารัก เราก็มีคำถามนี้เหมือนกัน เอาเป็นว่า คุณยอมได้เงินน้อยลงหรือเสียเงินเพื่อทำสิ่งนั้นรึเปล่า สำหรับเราเองคำตอบก็ยังไม่ชัดเจนนัก แต่ถ้าถามว่าอะไรที่คิดว่าใช่ที่สุด ณ ตอนนี้คือการออกกำลังกาย ไปวิ่งหยุดซ้อมวันสองวันไม่เท่าไหร่ แต่หยุดหลายๆ วันแบบที่ไม่ได้ตั้งใจหยุดเองจะเริ่มหงุดหงิดรำคาญใจ ถ้าไม่ได้วิ่งก็ต้องทำอย่างอื่น จะว่ายน้ำ เวทเทรนนิ่ง โยคะก็ได้เท่าที่เวลาเอื้ออำนวย แต่ให้หยุดเลย ไม่ทำเลย นี่ไม่ได้ ต่อให้ขี้เกียจขนาดไหนแต่หยุดสักสามวันก็ไม่ได้แล้ว

วิริยะ = ความเพียร แต่ไม่ใช่ความขยัน
คนส่วนใหญ่เข้าใจว่าความเพียรคือความขยัน แต่สำหรับเราคิดว่าไม่ใช่ สำหรับเรา ขยันคือทำโดยที่มีหรือไม่มีเป้าหมายก็ได้ แต่ความเพียรคือการทำจนกว่าจะบรรลุเป้าหมาย ไม่ล้มเลิกไปเสียก่อน แม้จะผิดพลาดหรือล้มเหลวก็ยังทำเพราะว่าใจรัก(ฉันทะ) ทำจนมันสำเร็จในที่สุด

จิตตะ = ความใส่ใจ
อาหารที่วัตถุดิบเดียวกัน วิธีทำเหมือนกันทุกอย่าง แต่ว่าอร่อยต่างกัน จริงๆ มันต่างกันตรงไหน คำตอบคือต่างกันที่ "ใจ" ที่ใส่ลงไป ลองนึกถึงอาหารที่แม่ทำให้คุณกินสิ อาหารทำง่ายๆ แบบไข่เจียว แต่สำหรับเรามันอร่อยมากแบบที่หาทานที่ร้านที่อร่อยขนาดไหนก็ไม่เหมือนกัน เพราะใจที่ใส่ลงไปตอนทำ ความรู้สึกตอนทำไม่เหมือนกัน งานก็เช่นกัน ถ้าคุณสักแต่ทำงานให้เสร็จ มันก็จะแค่ "เสร็จ" แต่หากใส่ใจลงไป นอกจากงานจะเสร็จลุล่วง งานนั้นความผิดพลาดก็น้อย คุณภาพของงานก็ดีกว่า ความภูมิใจในผลงานก็มากกว่าด้วยเช่นกัน

วิมังสา = การปรับปรุงแก้ไข
ไม่มีใครไม่เคยผิดพลาด ทุกคนเคยผิดพลาดกันทั้งนั้นไม่ว่าเรื่องอะไร แต่สำหรับหลายคนที่เห็นผลงานของเขาออกมาดีเป็นเพราะเขานำข้อผิดพลาดนั้นมาแก้ไขงานที่ทำให้ดียิ่งๆ ขึ้นไป เป็นการ "เรียนรู้" จากความผิดพลาด คนที่ทำงานแล้วพลาดเรื่องเดิมซ้ำๆ นั่นเป็นเพราะไม่แก้ไขเพื่อป้องกันข้อผิดพลาดที่เคยเกิดเนื่องจากไม่รักในสิ่งที่ทำ(ฉันทะ)มากพอนั่นเอง

พอเข้าใจแบบนี้จะเห็นได้ว่า ฉันทะ หรือ Passion คือจุดเริ่มต้นของความสำเร็จ ไม่ว่าคุณจะทำงานอะไรหากขาดความรักในงานที่ทำก็ยากที่มันจะสำเร็จได้นั่นเอง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทเรียนจากการ DNF

DNF คือ Did not finish อันเนื่องมาจากวันนี้ไปลงแข่ง Bangsaen42 ซึ่งเป็นการวิ่งมาราธอนครั้งแรก แต่เราไม่จบการแข่งขัน เลยอยากจะเล่าข้อดีของเห...